ของเขาทำกันมาหลายสิบปีแล้ว เพิ่งจะมาตื่นตัวกำหนดมาตรฐาน
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะทำของดีให้ลูกค้าใช้นะครับ
แต่ติว่าของที่ผลิด มันเป็นการซ่อม ไม่ใช่ผลิตของใหม่ทั้งหมด
ไม่ได้ทำเพื่อส่งออก ไม่ได้เอาออกไปขายเป็นหน้าเป็นตาประเทศ
แต่เริ่มมีการกำหนดมาตรฐาน เพื่อให้เท่าเที่ยมของผลิตใหม่...
มองในแง่ผู้บริโภค แน่นอนว่าย่อมได้ประโยชน์
แต่ถ้ามองในแง่ของผู้ผลิต... นับเป็นฝันร้าย...
ถ้าจะบอกว่า ก็ทำให้มันดีสิ ก็อยู่ได้
แต่ปัญหาคือ ถ้าทำดีแล้ว แต่ไม่ได้ไปส่ง lab เพื่อตรวจมาตรฐานล่ะ?
และแน่นอน ตรวจแล้ว ก็ต้องตรวจอีกซ้ำอีกหลายรอบ
รวมถึงอาจจะต้องมีการเสียค่าขอใบอนุญาตมาตรฐานรายปีซ้ำซ้อนอีก
ซึ่งนับว่าเป็นค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่เพิ่มขึ้นอีกพอสมควร ปีละเป็นหมื่นแน่นอน
ไม่มีใครอยากทำของไม่ดีออกขายหรอกครับ
เพราะตอนนี้คู่แข่งก็เยอะจนไม่มีที่จะยืนอยู่แล้ว
ถ้าลูกค้าเขาใช้แล้วรู้สึกว่าเราไม่ดี เราสู้เจ้าอื่นไม่ได้ เขาก็จะเลือกซื้อเจ้าที่ดีถูกใจเขาไปเอง
ผมจึงเห็นว่าการกำหนดมาตรฐานทั้งหลาย
เป็นไปเพื่อการกีดกันผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่มีทุนและความรูุ้สูงพอ ให้ก้าวสู่ธุรกิจนั้นๆ
และเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มนายทุนเก่า ที่มีความพร้อมทั้งเงิน และเทคโนโลยี
ต่อไป เราจะเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ...
ยุคของเถ้าแก่ใหม่ หมดลงไปแล้วครับ...